นายพชร อนันตศิลป์ อธิบดีกรมธนารักษ์ เปิดเผยว่า ก่อนที่จะไปรับตำแหน่งอธิบดีกรมสรรพสามิต ในเดือน ต.ค. นี้ได้เร่งทำงานของกรมธนารักษ์ในหลายเรื่องให้มีความคืบหน้าก่อนที่จะไปรับตำแหน่งโดยเฉพาะโครงการบ้านพักผู้สูงอายุหรือซีเนียร์คอมเพล็กซ์ ซึ่งได้เซ็นสัญญากับโรงพยาบาลรามาบนเนื้อที่ 72 ไร่ มูลค่า 50 ล้าน ย่านสมุทรปราการ รองรับผู้สูงอายุเข้าสู่สังคมสูงวัย

และล่าสุดได้เซ็นสัญญากับมหาวิทยาลัยเชียงใหม่ และโรงพยาบาลสวนดอก ใช้ที่ราชพัสดุ 7 ไร่ สร้างซีเนียร์คอมเพล็กซ์ เพื่อใช้เป็นศูนย์ต้นแบบในการดูแลผู้สูงอายุ นอกจากนี้ยังอยู่ระหว่างทำร่างสัญญา (ทีโออาร์) ให้เอกชนเข้ามาประมามูลทำโครงการซีเนียร์คอมเพล็กซ์ ที่จังหวัดประจวบคีรีขันธ์ และนครนายก ซึ่งทีโออาร์อยู่ระหว่างการตรวจของสำนักงานอัยการ โดยเอกชนที่มาลงทุนต้องสร้างคลีนิกเพื่อดูแลผู้สูงอายุที่อยู่ในโครงการ ร่วมที่คนในบริเวณชุมชนด้วย

สำหรับโครงการบ้านธนารักษ์ประชารัฐ ได้เริ่มเปิดให้เอกชนเข้ามาประมูลทำโครงการ ในหลายจังหวัด โดยธนารักษ์เป็นผู้ทำทีโออาร์กลางให้แต่ละจังหวัดไปเปิดประมูลหาเอกชนมาก่อสร้างบนพื้นที่ราชพัสดุ

นายพชร กล่าวอีกว่า ในส่วนของมาตรการสนับสนุนโครงการระเบียงเขตเศรษฐกิจภาคตะวันออก หรืออีอีซี ในส่วนของที่เกี่ยวข้องกับกรมธนารักษ์ ได้แก่ การคิดเช่าที่ราชพัสดุ ในฐานราคาที่ต่ำเพื่อดึงดูดให้นักลงทุนสนใจมาลงทุนโดยฐานราคาดังกล่าวได้มีการเริ่มใช้คิดกับสนามบินอู่ตะเภานำร่องไปแล้ว ซึ่งก็เป็นฐานที่จะนำไปคิดกับเอกชนรายอื่นๆ ด้วย

นอกจากนี้ กรมธนารักษ์ในฐานะที่เป็นประธานบริษัท ธนารักษ์พัฒนาสินทรัพย์ จำกัด (ธพส.) ก็ได้เสนอโครงการก่อสร้างศูนย์ราชการโซนซี ไปยังคณะรัฐมนตรี (ครม.) เพื่อให้เห็นชอบแล้ว ซึ่งเป็นโครงการขนาดใหญ่จะช่วยกระตุ้นเศรษฐกิจในภาพรวมของไทยให้ขยายตัวได้เพิ่มมากขึ้น