ตลาดที่อยู่อาศัยกรุงเทพฯ-ปริมณฑล ปี 2565 ประเมินภาพรวมขายได้ใหม่ขยับขึ้น16% มูลค่ากว่า 3.46 แสนล้านบาท
Loading

ตลาดที่อยู่อาศัยกรุงเทพฯ-ปริมณฑล ปี 2565 ประเมินภาพรวมขายได้ใหม่ขยับขึ้น16% มูลค่ากว่า 3.46 แสนล้านบาท

วันที่ : 22 มีนาคม 2565
รายงานสรุปผลการสำรวจอุปทาน และ อุปสงค์ของโครงการที่อยู่อาศัยที่อยู่ระหว่างการขายในช่วงครึ่งหลังปี 2564 ในพื้นที่กรุงเทพฯ – ปริมณฑล นับเฉพาะโครงการที่มีหน่วยเหลือขายไม่ต่ำกว่า 6 หน่วย และประเมินทิศทางตลาดในปี 2565
ศูนย์ข้อมูลอสังหาริมทรัพย์ ธนาคารอาคารสงเคราะห์ หรือ REIC จัดทำรายงานสรุปผลการสำรวจอุปทาน และ อุปสงค์ของโครงการที่อยู่อาศัยที่อยู่ระหว่างการขายในช่วงครึ่งหลังปี 2564 ในพื้นที่กรุงเทพฯ – ปริมณฑล นับเฉพาะโครงการที่มีหน่วยเหลือขายไม่ต่ำกว่า 6 หน่วย และประเมินทิศทางตลาดในปี 2565 โดยภาพรวมพบว่าในช่วงครึ่งปีหลังที่ผ่านมาผู้ประกอบการยังคงชะลอการเปิดโครงการใหม่ส่งผลให้จำนวนที่อยู่อาศัยเสนอขายในพื้นที่กรุงเทพฯและปริมณฑล มีจำนวนหน่วยลดลงจากช่วงเดียวกันของปี 2563 ร้อยละ -6.5 โดยมีจำนวน 197,089 หน่วย มูลค่า 952,329 ล้านบาท ลดลงร้อยละ -11.3 ขณะที่หน่วยขายได้ใหม่ก็ยังคงลดลงเช่นกัน โดยมีจำนวนหน่วยขายได้ใหม่  32,138 หน่วย ลดลงร้อยละ -7.0  คิดเป็นมูลค่า 153,729 ล้านบาท ลดลงร้อยละ -6.8 แต่มีสัญญาณที่ดีเพราะจำนวนหน่วยเหลือขายก็ลดลงด้วยเช่นกัน โดยมีจำนวนรวม  164,951  หน่วย ลดลงร้อยละ -6.4 มูลค่ารวมกว่า  798,600 ล้านบาท ลดลงร้อยละ -12.2 ส่งผลให้อัตราดูดซับทรงตัวเมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปี 2563 หรืออยู่ที่ร้อยละ 2.7

เมื่อประเมินสถานการณ์โดยภาพรวมศูนย์ข้อมูลอสังหาริมทรัพย์คาดการณ์ว่าภาพรวมตลาดที่อยู่อาศัยในพื้นที่กรุงเทพฯ-ปริมณฑลในปี 2565 การลงทุนพัฒนาโครงการใหม่โดยเฉพาะโครงการอาคารชุด จะกลับมาเคลื่อนไหวอีกครั้งหลังจากที่ชะลอตัวต่อเนื่องมาถึง 2 ปี  โดยคาดการณ์ว่าจะมีการเปิดตัวโครงการใหม่ประเภทโครงการอาคารชุดเพิ่มขึ้นร้อยละ 111.5 หรือจำนวน 44,519 หน่วย คิดเป็นมูลค่าเพิ่มขึ้นร้อยละ 184.7 หรือจำนวน 177,246 ล้านบาท และโครงการบ้านจัดสรร เพิ่มขึ้นร้อยละ 28.2 หรือจำนวน 39,089 หน่วย คิดเป็นมูลค่าเพิ่มขึ้นร้อยละ 33.7 หรือจำนวน 209,511 ล้านบาท  และคาดการว่าจำนวนหน่วยขายได้ใหม่ก็จะเพิ่มขึ้นด้วยเช่นกัน โดยโครงการอาคารชุดขายได้ใหม่จะเพิ่มขึ้นร้อยละ 40.1 หรือจำนวน 41,756 หน่วย คิดเป็นมูลค่าเพิ่มขึ้นร้อยละ 34.0 หรือจำนวน 165,544 ล้านบาท และโครงการบ้านจัดสรรขายได้ใหม่เพิ่มขึ้นร้อยละ 10.4 หรือจำนวน 35,466 หน่วย คิดเป็นมูลค่าเพิ่มขึ้นร้อยละ 3.4 หรือจำนวน 180,845 ล้านบาท 

ดร.วิชัย วิรัตกพันธ์ ผู้ตรวจการธนาคาร และรักษาการผู้อำนวยการศูนย์ข้อมูลอสังหาริมทรัพย์ กล่าวว่า จากการสำรวจภาคสนามในช่วงครึ่งหลังปี 2564 พบว่าในช่วงปีที่ผ่านมาผู้ประกอบการพัฒนาโครงการที่อยู่อาศัยชะลอการลงทุนพัฒนาโครงการใหม่โดยเฉพาะโครงการอาคารชุดเพื่อลดจำนวนห้องชุดรอการขาย ส่งผลให้ในช่วงครึ่งหลังปี 2564 มีจำนวนโครงการใหม่เข้าสู่ตลาดจำนวน 32,818 หน่วย ลดลงร้อยละ -9.9 คิดเป็นมูลค่า 132,530 บาท มูลค่าลดลงร้อยละ -32.7 ซึ่งเป็นการลดลงของโครงการอาคารชุดมีจำนวน 14,219 หน่วย ลดลงร้อยละ -20.5 มีมูลค่า 36,779 ล้านบาท ลดลงร้อยละ -54.8 ส่วนโครงการบ้านจัดสรรการเปิดตัวโครงการใหม่เป็นไปตามสภาวะปรกติ คือมีจำนวน 18,599 หน่วย เพิ่มขึ้นเพียงร้อยละ 0.4 แต่มูลค่าลดลงโดยมีมูลค่า 95,751 ล้านบาท ลดลงร้อยละ -17.2 
สามารถดาวน์โหลดได้ที่นี่