สถานการณ์ตลาดที่อยู่อาศัย ไตรมาส 1/2565 คอนโดฯ ขายได้ใหม่เพิ่ม ดันอัตราดูดซับภาพรวมขยับขึ้นร้อยละ 5
Loading

สถานการณ์ตลาดที่อยู่อาศัย ไตรมาส 1/2565 คอนโดฯ ขายได้ใหม่เพิ่ม ดันอัตราดูดซับภาพรวมขยับขึ้นร้อยละ 5

วันที่ : 22 มิถุนายน 2565
ภาพรวมสถานการณ์ตลาดที่อยู่อาศัยในช่วงไตรมาสแรกของปี 2565 ยังคงต้องเผชิญความท้าทายรอบด้าน ทั้งจากสภาพเศรษฐกิจที่ยังชะลอตัว ภาวะเงินเฟ้อที่สูงขึ้นต่อเนื่องตั้งแต่ต้นปี รวมถึงอัตราดอกเบี้ยที่มีแนวโน้มสูงขึ้นอย่างชัดเจน
ศูนย์ข้อมูลอสังหาริมทรัพย์ ธนาคารอาคารสงเคราะห์ (REIC) รายงานภาพรวมสถานการณ์ตลาดที่อยู่อาศัยในช่วงไตรมาสแรกของปี 2565 ยังคงต้องเผชิญความท้าทายรอบด้าน ทั้งจากสภาพเศรษฐกิจที่ยังชะลอตัว ภาวะเงินเฟ้อที่สูงขึ้นต่อเนื่องตั้งแต่ต้นปี รวมถึงอัตราดอกเบี้ยที่มีแนวโน้มสูงขึ้นอย่างชัดเจน ปัจจัยดังกล่าวส่งผลต่อการตัดสินใจขยายการลงทุนของผู้ประกอบการภาคเอกชน และส่งผลให้ผู้บริโภคชะลอแผนการซื้อที่อยู่อาศัยแม้จะยังมีความต้องการ เพื่อให้ทุกภาคส่วนมีข้อมูลเพียงพอต่อการตัดสินใจกำหนดทิศทางการลงทุน REIC จึงดำเนินการสำรวจอุปทานและอุปสงค์ของโครงการที่อยู่อาศัยที่อยู่ระหว่างการขาย โดยกำหนดให้มีการสำรวจภาคสนามเป็นรายไตรมาสในพื้นที่กรุงเทพฯ-ปริมณฑล และ 3 จังหวัด EEC (จังหวัดชลบุรี ระยอง และฉะเชิงเทรา) นับเฉพาะโครงการที่มีหน่วยเหลือขายไม่ต่ำกว่า 6 หน่วย 

อุปทานที่อยู่อาศัยเปิดขายใหม่ในช่วงไตรมาส 1/2565 รวมกว่า 2.9 หมื่นหน่วย มูลค่าเฉียด 1.07 แสนล้านบาท

ดร. วิชัย วิรัตกพันธ์ ผู้ตรวจการธนาคารอาคารสงเคราะห์ และรักษาการผู้อำนวยการศูนย์ข้อมูลอสังหาริมทรัพย์ เปิดเผยว่า การสำรวจโครงการที่อยู่อาศัยเสนอขาย ณ ช่วงไตรมาส 1 ปี 2565 พบว่ามีจำนวน 200,278 หน่วย มูลค่า 947,604 ล้านบาท โดยมีจำนวนหน่วยเพิ่มขึ้น 3,189 หน่วย แต่มูลค่ากลับลดลง 4,725 ล้านบาท เมื่อเทียบกับจากช่วงครึ่งหลังปี 2564  ในจำนวนดังกล่าวเป็นโครงการบ้านจัดสรร 116,941 หน่วย มูลค่ารวม 603,539 ล้านบาท เป็นโครงการอาคารชุดจำนวน 83,337 หน่วย มูลค่ารวม 344,065 ล้านบาท ทั้งนี้ การที่มูลค่าโครงการที่อยู่อาศัยเสนอขายลดลง เป็นผลจากการที่มีหน่วยเสนอขายใหม่เป็นหน่วยที่มีราคาต่ำลง โดยเฉพาะอาคารชุดภายใต้โครงการ BOI ที่ได้รับใบอนุญาตส่งเสริมการลงทุนในช่วงก่อนหน้านี้ เริ่มมีการเปิดขายโครงการมากขึ้น

พื้นที่ที่มีหน่วยเสนอขายสูงสุด คือ  โซนพระโขนง-บางนา-สวนหลวง-ประเวศ มีจำนวนหน่วยเสนอขาย 13,505 หน่วย แต่มูลค่าโครงการอยู่ในลำดับที่ 4 มีมูลค่ารวม 30,509 ล้านบาท โดยโซนที่มีหน่วยเสนอขายสูงสุดอันดับ 2 คือห้วยขวาง-จตุจักร-ดินแดง 13,202 หน่วย มูลค่า 58,300 ล้านบาท อันดับ 3 ธนบุรี-คลองสาน-บางกอกน้อย-บางกอกใหญ่-บางพลัด  7,198 หน่วย มูลค่าอยู่ในลำดับ 5 จำนวน 26,001 ล้านบาท อันดับ 4 เมืองนนทบุรี-ปากเกร็ด  6,175 หน่วย มูลค่าอยู่ในอันดับ 7 จำนวน 16,682 ล้านบาท และอันดับ 5 สุขุมวิท  5,471 หน่วย โดยมีมูลค่าโครงการสูงสุดเป็นอันดับ 1 จำนวน 58,477 ล้านบาท ...
สามารถดาวน์โหลดได้ที่นี่