สถานการณ์ตลาดที่อยู่อาศัยจังหวัดภาคกลาง-ภาคตะวันตก
Loading

สถานการณ์ตลาดที่อยู่อาศัยจังหวัดภาคกลาง-ภาคตะวันตก

วันที่ : 17 มีนาคม 2566
รายงานสถานการณ์ภาพรวมตลาดที่อยู่อาศัยที่ยังอยู่ระหว่างขายในช่วงครึ่งหลังปี 2565 ของจังหวัดภาคกลาง-ภาคตะวันตก ประกอบด้วย จังหวัดสระบุรี พระนครศรีอยุธยา และจังหวัดภาคตะวันตก ประกอบด้วย จังหวัดประจวบคีรีขันธ์ และเพชรบุรี
ศูนย์ข้อมูลอสังหาริมทรัพย์ ธนาคารอาคารสงเคราะห์ (REIC) รายงานสถานการณ์ภาพรวมตลาดที่อยู่อาศัยที่ยังอยู่ระหว่างขายในช่วงครึ่งหลังปี 2565 ของจังหวัดภาคกลาง-ภาคตะวันตก โดยจังหวัดภาคกลาง ดำเนินการสำรวจ 2 จังหวัด ประกอบด้วย จังหวัดสระบุรี พระนครศรีอยุธยา พบว่า จำนวนหน่วยที่อยู่อาศัยเสนอขาย (Total Supply) เพิ่มขึ้นร้อยละ 7.2 เมื่อเทียบกับช่วงเดี่ยวกันของปีก่อน ซึ่งเป็นผลมาจากหน่วยเหลือขายที่ในช่วงก่อนหน้าที่เหลือมามาก แม้ว่าจะมีการเปิดตัวโครงการใหม่ (New Supply) ที่ไม่มาก แต่เมื่อมียอดขายใหม่ (New Sale) ที่น้อยกว่าช่วงเดียวกันของปีก่อน ได้ส่งผลให้อัตราดูดซับของภาพรวมตลาดภาคกลางอยู่ที่ร้อยละ 1.7 และหน่วยเหลือขาย ณ สิ้นครึ่งหลังปี 2565 เพิ่มขึ้นร้อยละ 12.5

สำหรับจังหวัดภาคตะวันตก ดำเนินการสำรวจ 2 จังหวัด ประกอบด้วย จังหวัดประจวบคีรีขันธ์ และเพชรบุรี ภาพรวมตลาดที่อยู่อาศัยที่ยังอยู่ระหว่างขายในพื้นที่สำรวจช่วงครึ่งหลังปี 2565 ก็มีลักษณะเช่นเดียวกันคือมีหน่วยที่อยู่อาศัยเสนอขายที่เพิ่มขึ้นร้อยละ 20.7 เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน ซึ่งส่วนใหญ่เป็นหน่วยที่เหลือมาจาการครึ่งแรกปี 2565 มีผลให้อัตราดูดซับของภาพรวมตลาดอยู่ที่ร้อยละ 3.2 และมีจำนวนหน่วยเหลือขายในช่วงครึ่งหลังปี 2565 เพิ่มขึ้นร้อยละ 6.8

 ดร.วิชัย วิรัตกพันธ์ ผู้ตรวจการธนาคารอาคารสงเคราะห์ และรักษาการผู้อำนวยการศูนย์ข้อมูลอสังหาริมทรัพย์ เปิดเผยว่า ผลการสำรวจโครงการที่อยู่อาศัยภาคกลาง 2 จังหวัด ในช่วงครึ่งหลังปี 2565 พบว่า จำนวนอุปทานพร้อมขายจำนวนประมาณ 9,899 หน่วย มูลค่า 30,908 ล้านบาท ในจำนวนดังกล่าวแบ่งเป็นโครงการอาคารชุด 608 หน่วย มูลค่า 1,142 ล้านบาท เป็นโครงการบ้านจัดสรร 9,291 หน่วย มูลค่า 29,765 ล้านบาท มีโครงการใหม่เข้าสู่ตลาด 689 หน่วย มูลค่า 1,832 ล้านบาท มีโครงการขายได้ใหม่จำนวน 1,019 หน่วย มูลค่า 2,843 ล้านบาท ส่งผลให้มีหน่วยเหลือขาย 8,880 หน่วย มูลค่า 28,065 ล้านบาท สำหรับการสำรวจโครงการที่อยู่อาศัยภาคตะวันตก 2 จังหวัด ครึ่งหลังปี 2565 พบว่า จำนวนอุปทานพร้อมขายจำนวนประมาณ 6,760 หน่วย มูลค่า 31,322 ล้านบาท ในจำนวนดังกล่าวแบ่งเป็นโครงการอาคารชุด 3,737 หน่วย มูลค่า 16,215 ล้านบาท เป็นโครงการบ้านจัดสรร 3,023 หน่วย มูลค่า 15,107 ล้านบาท มีโครงการใหม่เข้าสู่ตลาด 663 หน่วย มูลค่า 1,636 ล้านบาท มีโครงการขายได้ใหม่จำนวน 1,306 หน่วย มูลค่า 5,550 ล้านบาท ส่งผลให้มีหน่วยเหลือขาย 5,454 หน่วย มูลค่า 25,772 ล้านบาท

 “ทิศทางการของตลาดที่อยู่อาศัยที่อยู่ระหว่างขายในภาคกลาง พบว่าในช่วงครึ่งหลังปี 2565 มีการลงทุนพัฒนาโครงการใหม่ที่เป็นบ้านจัดสรรเกิดขึ้นในพื้นที่สระบุรี และพระนครนครศรีอยุธยา และอาคารชุดเฉพาะในพระนครศรีอยุธยาเท่านั้น โดยจังหวัดสระบุรีมีอัตราดูดซับบ้านจัดสรรสูงสุดร้อยละ 1.9 และจังหวัดพระนครศรีอยุธยามีอัตราดูดซับอาคารชุดสูงสุดร้อยละ 5.7 ซึ่งเป็นอัตราการดูดซับที่สูงกว่าช่วงก่อนหน้า เนื่องจากยอดขายที่เพิ่มขึ้น”

 “ส่วนทิศทางของตลาดที่อยู่ระหว่างขายในภาคตะวันตก พบว่าในช่วงครึ่งหลังปี 2565 มีการลงทุนพัฒนาโครงการใหม่ที่เป็นบ้านจัดสรรเกิดขึ้นในพื้นที่ เพชรบุรีเท่านั้น ส่วนอาคารชุดมีทั้งในประจวบคีรีขันธ์ และเพชรบุรี โดยใน 2 จังหวัดภาคตะวันตก จังหวัดเพชรบุรีมีอัตราดูดซับบ้านจัดสรรสูงสุดร้อยละ 2.1 และประจวบคีรีขันธ์มีอัตราดูดซับอาคารชุดสูงสุดร้อยละ 6.6”...
สามารถดาวน์โหลดได้ที่นี่